รับทำ SEO คุณภาพสูง ครอบคลุม Content + Backlink อย่างเป็นระบบ

บริการรับทำ SEO (Search Engine Optimization) คือการปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงในผลการค้นหาบน Google โดยการใช้กลยุทธ์และเทคนิคต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นในผลการค้นหาแบบธรรมชาติ (Organic Search)

ขึ้นอยู่กับความยากของคีย์เวิร์ดและความแข็งแกร่งของเว็บไซต์เดิม ถ้าเป็นคีย์เวิร์ดเฉพาะ (Long-tail) อาจใช้เวลา 1–3 เดือน แต่ถ้าเป็นคีย์เวิร์ดหลักที่มีการแข่งขันสูง อาจใช้เวลาประมาณ 4–6 เดือนขึ้นไป เราเน้นผลลัพธ์ที่มั่นคง ไม่ใช่เร่งแบบไม่ยั่งยืน

โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นใน 1–2 เดือนแรก และเห็นผลชัดในช่วง 3 เดือนขึ้นไป การทำ SEO เหมือนการปลูกต้นไม้ ต้องค่อย ๆ เติบโต แต่เมื่อระบบติดแล้วจะให้ผลระยะยาวโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาตลอดเวลา

SEO สายขาว (White-hat) คือการทำ SEO โดยไม่ละเมิดกฎของ Google เช่น ไม่ปั่นลิงก์ ไม่ทำ Spam คำ ไม่ใช้ PBN ซึ่งแม้จะใช้เวลานานกว่า แต่มีความปลอดภัยและอยู่ได้นาน ส่วนสายดำ (Black-hat) เร็วแต่เสี่ยงโดนแบนและอันดับหล่นถาวร ซึ่ง Move On Marketing ไม่ใช้สายดำทุกกรณีครับ

ใช่ครับ การมีบทความที่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าค้นหา เป็นหัวใจสำคัญของ SEO เพราะ Google ใช้เนื้อหาในการประเมินว่าเว็บไซต์ของคุณมีคุณค่าและควรแสดงผลหรือไม่ ซึ่งทางเรามีทีมเขียน Content SEO ให้ครบ จบในแพ็กเกจครับ

SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาของ Google ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลมากที่สุด การที่เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ จะช่วยเพิ่มการเข้าชม เพิ่มความน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า/บริการของคุณได้

คุณสามารถดูผลลัพธ์ได้จากการเพิ่มขึ้นของอันดับคีย์เวิร์ดที่เลือก การเพิ่มขึ้นของปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ และการเพิ่มขึ้นของยอดขายหรือ Conversion ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องมือ SEO เช่น Google Analytics

การเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมคือส่วนสำคัญที่สุดในการทำ SEO เพราะคีย์เวิร์ดที่ดีต้องตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายและมีโอกาสติดอันดับบน Google การวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่ถูกต้องจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการเข้าชมจากผู้ค้นหาที่มีโอกาสกลายเป็นลูกค้าสูง

ระยะเวลาในการทำ SEO ขึ้นอยู่กับ ความยาก/ง่าย ของคำค้นหา (คีย์เวิร์ด) นั้นๆ โดยวัดจากปริมาณการค้นหาและจำนวนคู่แข่งที่ติดอันดับมาก่อนเรา ซึ่งเขาเหล่านั้นก็อาจทำ SEO เช่นเดียวกัน

ค่าใช้จ่ายในการทำ SEO ราคา ขึ้นอยู่กับ 5 หัวข้อหลักดังนี้

1.ความยากง่ายของคำค้นหา (คีย์เวิร์ด) นั้นๆ
2.ปริมาณคู่แข่ง ณ ช่วงเวลานั้นๆ เพราะเราต้อง ทำ SEO แข่งกับที่อื่นๆ
3.ประเภทความกว้างและความเฉพาะเจาะจงของคำ เช่น ข่าว, โน้ตบุ๊ค, กีฬา, หวย ถือเป็นคำที่กว้าง ไม่เฉพาะเจาะจง แต่หากเป็นชื่อสินค้า ที่มีชื่อรุ่น หรือสี ระบุด้วย ก็จะถือเป็นคำที่เฉพาะเจาะจงมากกว่า
4.โครงสร้างเว็บไซต์และเนื้อหาว่าเอื้อต่อการทำ SEO มากน้อยเพียงใด
5.เว็บนั้นๆ เคยทำ SEO มาก่อนหรือไม่ ซึ่งหากเคยและอันดับตกมา อาจต้องใช้เวลาในการปรับแก้ให้เข้าที่นานกว่าปกติ

โดย ราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท/เดือน เท่านั้น ซึ่งมีโอกาสที่ราคาจะเปลี่ยนแปลงมากขึ้นหรือถูกลง

ในส่วนของบริการ รับทำ SEO นั้นแตกต่างกับการลงโฆษณาผ่าน Google Ads ตรงที่ SEO อาจใช้เวลาในการทำนานกว่า แต่ถ้าติดหน้าแรกแล้วมีคนคลิ๊กแค่ไหนก็ตาม เราก็จะไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกจากค่าทำ SEO เท่านั้น

ในทางกลับกัน Google Ads อาจต้องเสียเงินทุกครั้งตามจำนวนที่มีการคลิ๊กเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่นเช่น ราคาประมูลเพื่อแสดงโฆษณา อยู่ที่ 15 บาท ซึ่งอาจต้องเสีย 15 บาททันที เมื่อมีการคลิ๊กเพียง 1 ครั้ง

แต่อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ส่วนนี้ก็มีความคล้ายกันตรงที่ มุ่งเน้นในการแสดงผลในหน้าแรกของ Google ให้ได้นานที่สุดด้วยงบประมาณที่มีอยู่ ในบางธุรกิจก็เลือกใช้ทั้ง 2 วิธีการนี้ในการทำการตลาดออนไลน์เป็นจำนวนมาก

ในกรณีที่เคยทำ SEO จากที่อื่นๆ หรือด้วยตัวเองมาก่อนนั้น ไม่แนะนำให้ทำ SEO ต่อเลยในทันที เพราะหากอันดับตก แล้วยิ่งทำ SEO ต่อ อาจยิ่งเป็นผลเสียมากกว่าเป็นผลดี หากเป็นกรณีดังกล่าวนี้ ให้รอสัก 30-60 วัน ก่อน จึงค่อย ทำ SEO ใหม่

การจ้างทำ SEO หลายที่พร้อม กัน มีโอกาสเกิดผลเสีย มากกว่าที่จะเป็นผลดี อันดับอาจตก หรือหากแย่ที่สุด เว็บอาจหายไปจาก Google เลยก็เป็นได้ เพราะอาจมองได้ว่าเป็นการทำ SEO แบบผิดปกติ ไม่เป็นธรรมชาติ และตรวจสอบได้ยาก ว่าใครทำ SEO สายขาว / สายเทา / สายดำ หากเป็นไปได้ไม่แนะนำให้จ้างครั้งละหลายเจ้าครับ ยินดีให้คำปรึกษาด้าน SEO โทร 064 989 9797

การติดหน้าแรก Google ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความแข่งขันของคีย์เวิร์ด คุณภาพของเว็บไซต์ และการทำ SEO อย่างต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณติดอันดับได้มากขึ้น แต่ไม่มีการรับประกัน 100% ว่าจะติดหน้าแรกได้ทุกคีย์เวิร์ด

อันดับแรก ค้นหาคีย์เวิร์ดที่ต้องการ (Keyword Research) โดยใช้เครื่องมือ เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs, หรือ SEMrush เพื่อหาและเลือกคำหลักที่มีปริมาณการค้นหาและคู่แข่งที่เหมาะสม หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ของเรา

วิเคราะห์คู่แข่ง (Competitor Analysis) ค้นหาธุรกิจที่เหมือนเราผ่าน Google แสดงเว็บไซต์ไหนๆ ถือว่าเป็นคู่แข่งทั้งหมด เพราะอย่าลืมว่าเราจะทำอันดับหน้าแรก เราต้องผ่านเว็บไซต์เหล่านี้ก่อน

หลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนทำ SEO จะมีใน 2 ส่วน คือ On Page SEO และ Off Page SEO

ส่วนสุดท้ายจะเป็นการติดตามผลและปรับปรุง ใช้เครื่องมือ เช่น Google Analytics และ Google Search Console เพื่อติดตามผลลัพธ์และปรับกลยุทธ์ตามข้อมูล

การปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เพื่อให้ปรากฏในอันดับที่สูงขึ้นในหน้าผลลัพธ์การค้นหาผ่าน เครื่องมือค้นหา เช่น Google, Bing, หรือ Yahoo โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการเข้าชมเว็บไซต์จากผู้ใช้งานอย่างเป็นธรรมชาติ (Organic Traffic) โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา

แบ็คลิ้งค์ (Backlink) คือ ลิงก์ที่เชื่อมโยงจากเว็บไซต์หนึ่งมายังเว็บไซต์ของคุณ หรือที่เรียกกันว่า “Inbound Link” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการทำ SEO เพราะเครื่องมือค้นหาอย่าง Google ใช้แบ็คลิ้งค์เป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือและคุณภาพของเว็บไซต์

การสร้าง Backlinks ที่มีคุณภาพสำหรับ SEO เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มอันดับเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหา วิธีการสร้าง Backlinks อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีคำตอบที่แน่ใชัด ขึ้นอยู่กับเทคนิคแต่ละเจ้าด้วยครับ

การติดหน้าแรก Google ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความแข่งขันของคีย์เวิร์ด คุณภาพของเว็บไซต์ และการทำ SEO อย่างต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณติดอันดับได้มากขึ้น แต่ไม่มีการรับประกัน 100% ว่าจะติดหน้าแรกได้ทุกคีย์เวิร์ด

แน่นอนครับ ต้องเป็นการทำ SEO เพราการทำอันดับผ่าน เครื่องมือค้นหา เช่น Google เพื่อให้อันดับของเว็บไซต์อยู่ในลำดับต้น ๆ บนหน้าผลลัพธ์การค้นหา (Search Engine Results Page หรือ SERP) ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้งานจะคลิกเข้ามาชมเว็บไซต์

เป้าหมายหลักของการทำ SEO คือการเพิ่มการมองเห็น (Visibility) และการเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) โดยเน้นการเข้าชมแบบธรรมชาติ (Organic Traffic) ที่ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา ที่ดีที่สุด