เริ่มต้นด้วยความจริงที่เจ้าของธุรกิจใหม่ต้องเจอ
ธุรกิจใหม่เกือบทุกแห่งมักตั้งเป้าว่า “ต้องมียอดขายตั้งแต่วันแรก” สิ่งที่ทำได้ง่ายและเร็วที่สุดคือการยิงโฆษณา ไม่ว่าจะเป็น Facebook Ads หรือ Google Ads เพราะยิงวันนี้ก็เห็นผลวันนี้ ลูกค้าเห็นโพสต์ คลิก และบางคนก็ซื้อทันที แต่ความจริงที่เจ้าของธุรกิจหลายคนพบเจอ คือค่าโฆษณาแพงขึ้นทุกวันจากการแข่งขันที่สูงขึ้น เมื่อหยุดจ่าย โฆษณาก็หาย ลูกค้าก็หายตามไปด้วย ที่สำคัญคือ ลูกค้าจำนวนไม่น้อยเริ่มไม่เชื่อโฆษณา เพราะรู้ทันว่ามันคือการขายตรง
นี่คือเหตุผลว่าทำไมการฝากอนาคตของธุรกิจใหม่ไว้กับ Ads เพียงอย่างเดียว อาจเป็นทางเลือกที่เสี่ยงและไม่ยั่งยืนครับ
SEO คืออะไร และต่างจาก Ads อย่างไร
SEO หรือ Search Engine Optimization คือการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับผลการค้นหาบน Google เมื่อมีคนค้นหาสินค้า บริการ หรือคำถามที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ การที่ลูกค้าพิมพ์คำค้นหาแล้วเจอเว็บของคุณบนหน้าแรก เท่ากับว่าธุรกิจของคุณถูกค้นพบโดย “คนที่ต้องการสิ่งนั้นจริง ๆ”
ต่างจาก Ads ที่เน้นการจ่ายเงินเพื่อให้ระบบแสดงผลทันที SEO ต้องใช้เวลาในการปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ ทำคอนเทนต์ และสร้างความน่าเชื่อถือ แต่เมื่อทำได้แล้ว ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้เป็นปี ๆ แม้จะไม่ได้ลงเงินเพิ่ม SEO จึงเปรียบเสมือนการสร้าง “รากฐานธุรกิจ” ที่มั่นคง ต่างจาก Ads ที่เป็นเหมือนค่าเช่าป้ายโฆษณา หยุดจ่ายเมื่อไหร่ก็หายไปเมื่อนั้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นถ้าธุรกิจใหม่พึ่งแต่ Ads
หนึ่งในปัญหาหลักคือ ต้นทุนสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเมื่อมีผู้เล่นมากขึ้น คำค้นหายอดนิยมและกลุ่มเป้าหมายก็ยิ่งแข่งขันกันหนักขึ้น ค่าโฆษณาต่อคลิก (CPC) หรือค่าโฆษณาต่อการแสดงผล (CPM) จึงแพงขึ้นทุกปี
อีกเรื่องคือ ความน่าเชื่อถือ ลูกค้ามักจะมอง Ads ว่าเป็นโฆษณาที่จ่ายเงินซื้อมา แต่ถ้าเจอเว็บที่ติดอันดับด้วย SEO จะรู้สึกว่าแบรนด์นั้น “มีตัวตนจริง” และน่าเชื่อถือมากกว่า
นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องการ พึ่งพาแพลตฟอร์มเดียว อย่างเช่นธุรกิจที่อาศัย Facebook เพียงอย่างเดียว เมื่ออัลกอริทึมเปลี่ยน การเข้าถึงหาย ธุรกิจก็สะดุดทันที
และสุดท้าย Ads ไม่ได้สร้าง “ทรัพย์สิน” อะไรให้กับธุรกิจ มันคือค่าใช้จ่ายที่หายไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ SEO คือการลงทุนที่สร้างเว็บไซต์และคอนเทนต์ที่อยู่กับคุณไปอีกนาน
ทำไม SEO ถึงเหมาะกับธุรกิจใหม่
SEO คือการสร้างการรับรู้ (Awareness) ในแบบที่เป็นธรรมชาติ ลูกค้าที่ค้นหาคำและเจอเว็บคุณบน Google มักเป็นคนที่ต้องการหาซื้อจริง ๆ จึงมีโอกาสปิดการขายสูงกว่าการเจอโฆษณาที่เด้งขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
อีกทั้ง SEO ยังช่วย ลดต้นทุนการตลาดระยะยาว ลูกค้าที่เข้ามาจาก Organic Search มีต้นทุนต่ำกว่าลูกค้าที่ได้จาก Ads หลายเท่า และที่สำคัญ คอนเทนต์ที่ทำ SEO ดี ๆ จะยังคงทำงานให้คุณในอีกหลายเดือนหรือหลายปีหลังจากนั้น
สำหรับธุรกิจใหม่ SEO จึงไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นการวาง “รากฐาน” ที่ทำให้ธุรกิจมีโอกาสยืนระยะและแข่งกับเจ้าใหญ่ได้ แม้จะมีงบประมาณที่ต่างกันมากก็ตาม
ตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นภาพ
ลองเปรียบเทียบธุรกิจสองแบบ
- ธุรกิจ A ใช้ Ads เพียงอย่างเดียว ยิงโฆษณา Facebook เดือนละ 50,000 บาท ได้ลูกค้าใหม่เข้ามาจริง แต่พอหยุดยิงเมื่อไหร่ ยอดขายก็หายเป็นศูนย์
- ธุรกิจ B เริ่มทำ SEO ตั้งแต่แรก ใช้เวลา 6 เดือนในการสร้างคอนเทนต์และทำเว็บให้ติดหน้าแรก หลังจากนั้นแม้ไม่ต้องลงเงินเพิ่ม ก็ยังมีลูกค้าใหม่เข้ามาเรื่อย ๆ
ธุรกิจ B อาจจะเริ่มต้นช้ากว่า แต่ในระยะยาวกลับมีรากฐานที่แข็งแรงกว่าและประหยัดกว่ามากครับ
วิธีเริ่มทำ SEO สำหรับธุรกิจใหม่
- หาคีย์เวิร์ดที่ใช่
เริ่มจากการทำความเข้าใจว่าลูกค้าพิมพ์หาอะไร ใช้ Long-tail Keyword ที่เฉพาะเจาะจง เช่น “ร้านอาหารเพชรบูรณ์เปิดดึก” ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าที่ตรงกลุ่มมากขึ้น - สร้างคอนเทนต์ตอบโจทย์
เขียนบทความ รีวิว หรือเคสจริงที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า อย่าเน้นแต่การขายตรง ๆ แต่ให้คุณค่าและสร้างความเชื่อมั่นแทน - ปรับโครงสร้างเว็บไซต์
เว็บไซต์ควรโหลดเร็ว (ไม่เกิน 3 วินาที) รองรับการใช้งานผ่านมือถือ 100% และมีเมนูที่ใช้งานง่าย ลูกค้าไม่ควรเสียเวลาหาของที่ต้องการนานเกินไป - สร้าง Backlink คุณภาพ
เลือกทำจากเว็บรีวิว บทความพันธมิตร หรือ Blog ที่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงการซื้อ Backlink แบบสุ่ม เพราะอาจโดน Google มองว่าเป็น Spam และส่งผลเสียต่ออันดับแทนที่จะช่วย - วัดผลและปรับปรุงต่อเนื่อง
ใช้เครื่องมืออย่าง Google Analytics และ Search Console เพื่อติดตามอันดับคีย์เวิร์ด รวมถึงพฤติกรรมของผู้เข้าชม แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงเว็บไซต์และคอนเทนต์ให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
SEO ไม่ได้ตัด Ads ทิ้ง แต่ต้องใช้ให้เหมาะสม
หลายธุรกิจใหม่อาจคิดว่าเลือก SEO แปลว่าต้องเลิกใช้ Ads ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่จำเป็นเลยครับ การใช้ SEO และ Ads ควบคู่กันเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด
- Ads → เหมาะสำหรับการสร้างยอดขายระยะสั้น เปิดตลาดให้คนรู้จักเร็ว ๆ
- SEO → เหมาะสำหรับการสร้างฐานลูกค้า ความน่าเชื่อถือ และความยั่งยืนในระยะยาว
ธุรกิจใหม่จึงควรใช้ Ads เป็นเครื่องมือเปิดทาง แต่ควรลงทุนกับ SEO เพื่อสร้างอนาคตครับ
สิ่งที่ธุรกิจใหม่ไม่ควรทำเวลาเริ่ม SEO
สิ่งที่เจอบ่อยคือการทำผิดตั้งแต่เริ่ม เช่น Copy บทความจากเว็บอื่น ซึ่ง Google จับได้ทันทีและทำให้อันดับตก การยัดคีย์เวิร์ดแบบไม่เป็นธรรมชาติ อ่านแล้วไม่รู้เรื่อง หรือการเขียนขายของอย่างเดียวโดยไม่ให้คุณค่ากับผู้อ่าน สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ SEO ไม่ได้ผล
อีกปัญหาคือการทำเว็บสวยแต่โหลดช้า ลูกค้าไม่รอ คนส่วนใหญ่จะปิดเว็บในไม่กี่วินาทีถ้าโหลดนานเกินไป
การเริ่มธุรกิจใหม่ด้วย Ads อาจทำให้เห็นผลเร็ว แต่การฝากอนาคตทั้งหมดไว้กับโฆษณาเพียงอย่างเดียว คือกับดักที่ทำให้ธุรกิจเหนื่อยและเปลืองเงินไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ SEO คือการสร้างรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืน ให้ลูกค้าเจอคุณเองบน Google โดยไม่ต้องวิ่งไล่ตามลูกค้าให้เหนื่อย ธุรกิจใหม่อยากโตอย่างยั่งยืน = ต้องเริ่มจาก SEO ตั้งแต่วันนี้ครับ เชิญดูรายละเอียดทางนี้ได้เลย https://www.moveonmarketing.com/seo
เขียน/เรียบเรียงโดย: บจก. มูฟออน มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
- LINE ID @moveonmarketing
- Facebook : มูฟออน มาร์เก็ตติ้ง
- Instagram : มูฟออน มาร์เก็ตติ้ง
- Twitter : MoveOnThailand
- Mobile : 064 989 9797
- Mail : [email protected]
