ทำไมหลายเว็บถึงพังเพราะอัปเดต Plugin

หลายคนที่ใช้ WordPress น่าจะเคยเห็นข้อความแจ้งเตือนให้กดอัปเดต Plugin หรือ Theme อยู่บ่อย ๆ ใช่ไหมครับ หลายคนกดอัปเดตไปแบบไม่คิดอะไร เพราะคิดว่า “เขาออกอัปเดตมาให้ เราก็กดอัปเดตไปเถอะ”

แต่รู้ไหมครับว่า การอัปเดตแบบไม่เช็กก่อน อาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หลายเว็บไซต์พัง ทั้งเว็บล่ม เว็บโหลดไม่ได้ หรือบางครั้งหนักถึงขั้นข้อมูลหายเลยก็มี แล้วมันเกิดจากอะไรบ้าง มาลองดูกันครับ

ทำไมการอัปเดต Plugin หรือ Theme ถึงเสี่ยง

ทำไมการอัปเดต Plugin หรือ Theme ถึงเสี่ยง

โค้ดใหม่อาจไม่เข้ากับระบบเดิม

เวลา Plugin หรือ Theme มีการอัปเดต มักจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่หรือแก้ไขโค้ดเดิม ซึ่งบางครั้งโค้ดใหม่นี้อาจไม่เข้ากับ WordPress เวอร์ชันที่คุณใช้อยู่ หรือชนกับ Plugin ตัวอื่น ๆ ทำให้เกิด Error หรือเว็บล่มได้ทันทีหลังอัปเดตครับ ที่สำคัญคือหลายคนไม่รู้ว่าปัญหานี้ไม่ใช่แค่เกิดกับ Plugin เล็ก ๆ แต่บางครั้ง Theme ที่เป็นตัวหลักของเว็บ ก็สามารถทำให้ทุกอย่างพังได้เพราะความเข้ากันไม่ได้ของโครงสร้าง

ไม่ได้สำรองข้อมูลก่อนอัปเดต

อัปเดตคือการเขียนทับไฟล์เดิม ถ้าเกิดปัญหาแล้วคุณไม่มี Backup ไว้ การกู้ข้อมูลกลับมาแทบเป็นไปไม่ได้ หรือถ้าทำได้ ก็ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ ลองคิดดูว่า ถ้าคุณเป็นเว็บร้านค้าออนไลน์ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาทุกวัน แต่ต้องหยุดทุกอย่างเพราะเว็บพังไปหลายวัน คงไม่ใช่เรื่องเล็กแน่นอน

ใช้ Plugin หรือ Theme ที่ไม่มีการทดสอบเพียงพอ

บาง Plugin หรือ Theme โดยเฉพาะของฟรี อาจไม่มีทีมงานทดสอบกับ WordPress เวอร์ชันล่าสุดหรือไม่อัปเดตให้รองรับการใช้งานที่เปลี่ยนไป ซึ่งถ้าคุณอัปเดตตามไปแบบไม่เช็ก ก็อาจได้ไฟล์ที่มีปัญหามาลงเว็บครับ หลายครั้งผู้ใช้เองก็ไม่เคยเช็กประวัติผู้พัฒนาว่าเป็นใคร อัปเดตสม่ำเสมอหรือไม่ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่มักถูกมองข้าม

ใช้ Plugin หรือ Theme ที่ไม่มีการทดสอบเพียงพอ

ไม่ได้ทดสอบบน Staging Site ก่อน

เว็บมืออาชีพมักจะมีเว็บทดสอบ (Staging Site) แยกออกจากเว็บจริง เพื่อเอาไว้ทดสอบก่อนอัปเดตจริง ถ้าอัปเดตบนเว็บจริงเลย โดยไม่ผ่านการทดสอบ โอกาสพังแบบกู้ยากจะสูงขึ้นมากครับ การมี Staging Site ช่วยให้คุณจำลองสถานการณ์ได้ว่า ถ้าอัปเดตแล้วมีปัญหา จะต้องแก้ยังไงหรือถอยกลับอย่างไรโดยไม่กระทบผู้ใช้จริง

อัปเดตเพราะตามกระแสโดยไม่รู้ความจำเป็น

หลายครั้งที่ผู้ดูแลเว็บเห็นคนอื่นพูดถึง Plugin หรือ Theme เวอร์ชันใหม่ ก็รีบอัปเดตตามโดยไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าอัปเดตนั้นแก้ไขหรือเพิ่มอะไร ทำให้กลายเป็นการเสี่ยงที่ไม่จำเป็น เพราะบางครั้งอัปเดตที่ออกมา อาจไม่สำคัญหรือยังไม่จำเป็นต้องใช้กับเว็บของคุณในตอนนี้ครับ

อัปเดตเพราะตามกระแสโดยไม่รู้ความจำเป็น

วิธีป้องกันปัญหาจากการอัปเดต

  • สำรองข้อมูลเว็บไซต์เสมอก่อนกดอัปเดต ทั้งไฟล์และฐานข้อมูล
  • ตรวจสอบ Changelog ของ Plugin หรือ Theme เพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
  • ลองหาความคิดเห็นจากผู้ใช้คนอื่น เช่น ดูรีวิว ดูฟอรั่ม ว่าอัปเดตใหม่มีคนเจอปัญหาหรือไม่
  • ถ้าเป็นเว็บสำคัญ แนะนำให้ตั้ง Staging Site เอาไว้ทดสอบก่อนอัปเดตจริง
  • เลือกใช้ Plugin และ Theme ที่มีผู้พัฒนาอัปเดตสม่ำเสมอ และมีการดูแลระยะยาว
  • วางแผนช่วงเวลาการอัปเดต เช่น ไม่อัปเดตช่วงที่เว็บมีทราฟฟิกสูง หรือช่วงที่มีโปรโมชันสำคัญ เพื่อไม่ให้กระทบผู้ใช้จริง

ผลลัพธ์ที่ได้จากการวางแผนก่อนอัปเดต

การอัปเดตอย่างมีแผนจะช่วยลดความเสี่ยงเว็บพัง ช่วยให้เว็บทำงานได้เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ทีมงานที่ดูแลเว็บว่า หากเกิดปัญหา จะมีแผนสำรอง ไม่ต้องตกใจหรือเสียเวลาแก้ไขแบบฉุกเฉิน อีกทั้งยังช่วยให้ธุรกิจไม่เสียโอกาสทางรายได้ เพราะเว็บล่มหรือใช้งานไม่ได้ครับ

เขียน/เรียบเรียงโดย: บจก. มูฟออน มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

LINE ID @moveonmarketing
Mobile : 064 989 9797
Email : [email protected]

หาท่านสนใจให้เราเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ หรือ ออกแบบเว็บไซต์ ให้มีประสิทธิภาพเชิญทางนี้ครับ
www.moveonmarketing.com/wordpress