เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าตระกูล Audience ทั้งหลายของ Facebook เป็นการค้นหากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะการทำความรู้จักและเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย เพื่อการทำการตลาดและโฆษณา การใช้ Audience มีอีกหลายแขนงและเป็นมิติที่แตกต่างกันออกไป และการใช้ Lookalike Audience ก็เป็นการค้นหาและขยายกลุ่มเป้าหมายอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเราก็มีเทคนิคและวิธีใช้มันให้คุ้มค่าและได้ประโยชน์มากที่สุดมาฝากนักการตลาดทุกคน
ใช้ Lookalike Audience ยังไงให้ครอบคลุมที่สุด
การใช้ Lookalilk Audience ให้ครอบคลุมที่สุดควรเริ่มจากกลุ่มเป้าหมายตั้งต้นที่ดี เพราะฉะนั้นเราควรจะทำการแยกกลุ่มของข้อมูลที่เรามี เช่น คนที่เข้าดูวิดีโอของเราจนจบ คนที่เข้าอยู่หน้าเว็บไซต์เรานาน คนที่คอมเม้นท์ กดไลค์ กดแชร์ ควรแยกให้เป็นสัดส่วน เพราะการใส่กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ลงไป Lookalike Audience มันจะแสดงผลกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันมาให้คุณ และมันจะมีความแม่นยำมาก
แต่เราใส่ได้เพียงกลุ่มเป้าหมายเดียวเท่านั้น หรือต่อให้คุณเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายหลัก ขนาดของ Lookalike Audience จะไม่เพิ่มมากขึ้น เพราะมันคำนวณมาจากจำนวนประชากรหรือภูมิภาคที่คุณเลือกเป็นฐาน
เช่น มีคนใช้เฟสบุ๊ค 5 ล้านคนในประเทศที่คุณเลือก 1 % ของ 5 ล้านนั้นก็คือ 50,000 คน จึงมีความเชื่อว่า 1% ที่คัดมานั้นมันแม่นยำมาก แต่ก็ไม่ได้เป็นการการันตีว่าเปอร์เซ็นต์ที่มากกว่า 1% จะไม่แม่นยำหรือไม่ดี นอกจากคุณจะทำการทดลอง สรุปได้ว่าการแยกกลุ่มเป้าหมายเป็นหัวข้อใหญ่ๆ จะเป็นการทำที่ครอบคลุม และยังสามารถวัดผลได้อีกด้วย
ทดลองเปอร์เซ็นต์ของ Lookalike Audience
การที่เราจะใช้งบประมาณเพื่อทดลองความแม่นยำของเปอร์เซ็นต์ Lookalike Audience ก็คงจะไม่เสียหายอะไรมาก ถ้าหากเราจะได้รู้ผลลัพธ์หรือแม้กระทั่งเทคนิคเฉพาะอีกมากมาย การทำโฆษณาเพื่อจะทดสอบเปอร์เซ็นต์ที่มีการพูดถึงกันว่า 1% ดีที่สุด 5% มีความแม่นยำน้อยสุด คุณควรจะแยกแคมเปญกันไปเลย
อาจจะทดสอบแค่เปอร์เซ็นต์ที่อยากรู้ก็พอ ที่นี้คุณก็สามารถนั่งรอดูผลลัพธ์ได้เลย หากมันไม่ได้ผลหรือผลลัพธ์ไม่ได้ดังใจ เราก็ต้องวนกลับไปที่เดิมอีก คือ ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายลูกค้าตั้งต้นของเราดีหรือไม่ แล้วลองปรับปรุงแก้ไขข้อมูลใหม่อีกครั้ง
Lookalike Audience จะไม่อัพเดท
บางคนอาจจะรู้อยู่แล้วว่า Custom Audience จะมีการอัพเดทอยู่เสมอและตลอดเวลา คุณจะสามารถสังเกตเห็นได้ตอนที่คุณกำลังสร้างมันคือมา ข้อมูลเหล่านี้จะอัพเดทตลอดเวลา แต่ Lookalike Audience นั้นแตกต่างกัน มันจะไม่มีการอัพเดทใหม่หลังที่คุณสร้างขึ้นมาแล้ว นานไปจะมีประสิทธิภาพลดลง
สิ่งที่เราควรทำคือการสร้าง Lookalike Audience ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ หากให้แนะนำจริงๆ คุณควรสร้าง Lookalike ใหม่ทุก 2-3 เดือน เพื่อจะได้ขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้ แต่หากเห็นว่ามันยังใช้ได้ดีและประสิทธิภาพไม่ลดลง คุณสามารถเลือกสร้างใหม่เมื่อไรก็ได้ตามที่คุณต้องการ
ติดตามผลอยู่เสมอ
หลังที่ได้ข้อมูลจาก Lookalike Audience และนำไปจัดการทำโฆษณาเสร็จเรียบร้อย คุณควรจะติดตามผลอยู่เสมอว่าข้อมูลที่เรานำมานั้นได้ผลดีหรือไม่ ถ้าหากยังไม่ดีหรือไม่เป็นที่พอใจ ขอแนะนำว่าควรศึกษากลุ่มเป้าหมายตั้งต้นของเราอีกครั้ง เพื่อให้สามารถจัดการกับการตั้งค่าให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
เมื่อทำมาถึงเทคนิคข้อสุดท้ายนี้แล้วคุณอาจจะพบเจออุปสรรคที่ทำให้ท้อบ้าง การศึกษาและปรับปรุงแก้ไขจะช่วยทำให้คุณได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ตรงความต้องการได้อย่างแน่นอน ขอแค่มุ่งมั่นเข้าไว้ ทุกสิ่งต้องใช้เวลา
สุดท้ายนี้เราก็อยากขอแนะนำให้คุณทำตามเทคนิคต่างๆ ข้างต้นที่เราได้แนะนำไว้ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอก แค่ทำให้ถูกหลักและถูกตามจุดประสงค์เท่านั้น อย่าลืมว่าเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ นี่เป็นเพียงเทคนิคแบบคร่าวๆ เมื่อคุณมีโอกาสได้ทดลองดูจนคุ้นเคยแล้วแล้ว คุณก็อาจจะเจอเทคนิคก็พิเศษเฉพาะตัวคุณเองก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถพบกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ตรงใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว
