Keyword Match Types คีย์เวิร์ด 4 ประเภทของ Google Ads

Google Ads คือ บริการที่ช่วยให้การสร้างโฆษณาของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น หากคุณมีสินค้าหรือบริการที่ต้องการนำเสนอขาย การสร้างโฆษณาจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีรูปแบบในการทำโฆษณาอยู่หลากหลายแคมเปญให้คุณได้เลือกสรร คุณสามารถเลือก Keyword ได้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งคีย์เวิร์ดเหล่านั้นให้ครอบคลุมได้มากขึ้น และปรับให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้นได้ด้วยการใช้ Keyword Match Type มาช่วยจัดการคีย์เวิร์ดโฆษณา

Keyword Match Types คืออะไร?

Keyword Matching Option หรือ Keyword Match Type คือ รูปแบบของการจัดการกลุ่ม Keyword ที่ช่วยให้ผู้ที่สร้างโฆษณาด้วยการทำ Google Ads สามารถจัดการกับกลุ่มของคีย์เวิร์ดได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น จึงช่วยทำให้การโฆษณาสินค้าและบริการของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ประเภทของ Keyword Match Types

การดูแลจัดการคีย์เวิร์ดด้วย Keyword Match Types มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละรูปแบบจะตอบสนองต่อความต้องการในการสร้าง Keyword ที่แตกต่างกันออกไป ประเภทของ Keyword Match Types สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท คือ Broad Match, Broad Match Modifier, Phrase Match และ Exact Match

1. Broad Match

Broad Match คือ การจับคู่แบบกว้าง มีรูปแบบการทำงานด้วยการค้นหาคำที่มีความหมายคล้ายหรือใกล้เคียงกันกับ Keyword เมื่อคุณสร้างโฆษณาโดยใช้การจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดประเภทนี้ หากมีผู้ค้นหาโดยใช้คำที่ตรงกับคีย์เวิร์ดของคุณ คำที่มีความหมายเหมือนกัน คำที่มีลักษณะการพิมพ์ใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์ของการค้นหาเหล่านี้จะแสดงโฆษณาของคุณขึ้นมา ต่อให้ผู้ค้นหาจะไม่ได้พิมพ์คำค้นที่ตรงกับคีย์เวิร์ดของคุณเลยก็ตาม

2. Broad Match Modifier

Broad Match Modifier คือ ตัวแก้ไขการจับคู่แบบกว้าง มีรูปแบบการทำงานที่คล้ายกันกับ Broad Match แต่จะให้ความสำคัญกับคำค้นหาที่กำหนด หากมีผู้ค้นหาโดยใช้คำที่มีคีย์เวิร์ดของคุณอยู่ ซึ่งอาจอยู่ในระหว่างประโยคหรือมีการสลับตำแหน่งของคำ ผลลัพธ์ของการค้นหาจะแสดงโฆษณาของคุณขึ้นมา แต่จะไม่แสดงโฆษณาหากคำที่ถูกค้นหาไม่มีคำใดตรงกับคีย์เวิร์ดของคุณ

3. Phrase Match

Phrase Match คือ การจับคู่วลี มีรูปแบบการทำงานที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงขึ้น เมื่อตั้งค่าโฆษณาให้มีการทำงานของคีย์เวิร์ดประเภทนี้ หากมีผู้ค้นหาโดยใช้คำที่มีคีย์เวิร์ดของคุณอยู่ แต่ลำดับคำไม่ตรงกับที่คุณได้กำหนดไว้ หรือมีการแทรกคำอื่นระหว่างกลุ่มคำที่คุณกำหนด ผลลัพธ์การค้นหาจะไม่แสดงโฆษณาคุณขึ้นมา แต่จะแสดงผลเมื่อมีคนค้นหาคำตรงตามลำดับของคุณเท่านั้น ซึ่งคำค้นหาอาจมีการเพิ่มเติมคำอื่นขึ้นได้ หรือเป็นคำอื่นที่มีความหมายเหมือนกัน แต่ต้องไม่แทรกกลางหรือเปลี่ยนลำดับของคำ

4. Exact Match

Exact Match คือ การจับคู่คำแบบตรงกันทั้งหมด มีรูปแบบการทำงานที่เฉพาะเจาะจงที่สุดในบรรดารูปแบบของคีย์เวิร์ดทั้งหมด หากผู้ค้นหาสืบค้นด้วยคำที่มีตรงกับคีย์เวิร์ดของคุณ หรือมีความหมายตรงกัน ผลลัพธ์การค้นหาจะแสดงโฆษณาของคุณขึ้นมา แต่จะไม่แสดงโฆษณาหากผู้ค้นหาเพิ่มคำที่มีความหมายอื่นลงไปด้วย ทำให้การเข้าถึงโฆษณาไม่ครอบคลุมทุกการค้นหา กลุ่มเป้าหมายที่สามารถมองเห็นโฆษณาได้จะถูกจำกัดไว้อย่างชัดเจน

ข้อดีและข้อเสียของ Keyword Match Types แต่ละประเภท

Broad Match

  • ข้อดี

ช่วยให้โฆษณาของคุณมีการแสดงผลที่กว้างขึ้น หากผู้ค้นหาไม่ได้พิมพ์คำค้นที่เป็นคีย์เวิร์ดของคุณโดยตรง แต่ค้นหาด้วยคำที่มีความหมายคล้ายกันหรือมีลักษณะของคำใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์ของการค้นหาก็จะแสดงโฆษณา เพิ่มโอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะเห็นโฆษณาสินค้าและบริการของคุณได้ จึงช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ทำให้มีโอกาสในการขายมากยิ่งขึ้น

  • ข้อเสีย

การที่โฆษณาของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น บางครั้งผู้ที่คลิกโฆษณาของคุณก็อาจไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่สนใจซื้อสินค้าและบริการอย่างแท้จริง ซึ่งอาจทำให้โฆษณาของคุณเป็นโฆษณาที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณามากขึ้นแต่ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ

Broad Match Modifier

  • ข้อดี

ช่วยให้โฆษณาของคุณตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นกว่าเดิม มีความยืดหยุ่นในการแสดงโฆษณาที่สามารถเฉพาะเจาะจงไปยังคำที่ต้องการได้อย่างชัดเจน และยังครอบคลุมถึงการค้นหาคำที่มีความหมายคล้ายหรือใกล้เคียงกันได้อีกด้วย

  • ข้อเสีย

ถึงแม้ว่าจะการตั้งค่าโฆษณาด้วยคีย์เวิร์ดประเภทนี้จะมีความเฉพาะเจาจงขึ้น แต่ก็ยังสามารถผลลัพธ์จากคำค้นหาที่หลากหลาย จึงมีโอกาสที่โฆษณาจะแสดงผลจากการค้นหาด้วยคำแปลกๆ ที่ไม่ตรงกับสินค้าและบริการของคุณได้

Phrase Match

  • ข้อดี

การใช้คีย์เวิร์ดประเภทนี้จะช่วยให้การจัดการการแสดงผลโฆษณาของคุณเป็นไปอย่างง่ายดายขึ้น ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นกว่าเดิม ช่วยป้องกันปัญหาจากการถูกคลิกโฆษณาโดยผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มลูกค้า จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาได้เป็นอย่างดี

  • ข้อเสีย

หากกลุ่มเป้าหมายที่สนใจในสินค้าและบริการของคุณเลือกใช้คำค้นหาที่มีลำดับคำที่แตกต่างไปจากที่คุณกำหนดไว้ ก็อาจทำให้ไม่สามารถมองเห็นโฆษณาของคุณได้ จึงควรเลือกใช้คีย์เวิร์ดอย่างระมัดระวัง เพื่อให้สามารถครอบคลุมทุกการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายได้ จึงจะทำให้โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด

Exact Match

  • ข้อดี

การเลือกใช้คีย์เวิร์ดนี้จะช่วยการค้นหาของคุณสามารถเจาะจงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนที่สุด มีโอกาสน้อยมากที่โฆษณาจะปรากฏยังผู้ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ โฆษณาที่มีการจัดการด้วยคีย์เวิร์ดประเภทนี้จะมีประสิทธิภาพมาก เพราะช่วยจำกัดคำค้นหาให้แคบ จึงสามารถตอบสนองต่อการค้นหาได้อย่างตรงความต้องการ

  • ข้อเสีย

การเลือกใช้คีย์เวิร์ดประเภทนี้จะทำให้ผลการแสดงโฆษณาของคุณมีความเฉพาะเจาะจงมากเป็นพิเศษ จึงทำให้ไม่ครอบคลุมถึงการค้นหาอื่นๆ ของผู้ที่อาจจะสนใจในสินค้าและบริการของคุณ ซึ่งอาจทำให้พลาดโอกาสในการนำเสนอขายสินค้าและบริการได้ จึงควรใช้คีย์เวิร์ดอื่นเพิ่มด้วยเพื่อช่วยให้โฆษณาสามารถตอบสนองต่อการทำธุรกิจได้มากที่สุด

มีคีย์เวิร์ดดีแล้วแต่โฆษณายังไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย?

การสร้างโฆษณาด้วยการทำ Google Ads ปกติแล้วจะมีการแสดงโฆษณาเมื่อมีผู้ค้นหาจากคำที่ตรงกันหรือคล้ายกันกับ Keyword ที่คุณได้เลือกเอาไว้ แต่หากคุณเกิดปัญหาการแสดงโฆษณาไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย คุณอาจจะต้องปรับเปลี่ยนคีย์เวิร์ดของคุณใหม่ให้เหมาะสมกับธุรกิจมากยิ่งขึ้น

หากว่าคำที่คุณเลือกใช้เป็น Keyword มีความเหมาะสมกับสินค้าและบริการของคุณแล้ว แต่โฆษณายังไม่มีประสิทธิภาพดีพอ คุณสามารถจัดการให้แคมเปญโฆษณาของคุณดีขึ้นได้ ด้วยการเลือกใช้ Negative Keywords ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของคีย์เวิร์ดที่ช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงกับปัญหาการโฆษณาไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ช่วยให้คุณสามารถจัดการโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจของคุณ ทำให้มีโอกาสในการขายสินค้าและบริการมากขึ้นกว่าเดิม