ปี 2025 Performance Max กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในระบบ Google Ads สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการยิงแอดให้คุ้มทุกช่องทาง ทั้ง Search, Display, YouTube, Gmail และ Discover
แคมเปญประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อให้ Google ใช้ AI จัดการการแสดงผลอัตโนมัติ โดยอิงจาก Conversion Goal และพฤติกรรมของผู้ใช้แบบเรียลไทม์ แต่คำถามคือ ถ้าแค่กดสร้างแคมเปญแล้วจบ มันจะได้ผลจริงไหม?
ในบทความนี้ แอดมินจะพาไปดูว่า ต้องตั้งค่าอะไรบ้าง และมีเทคนิคไหนที่จะช่วยให้คุณใช้ Performance Max ได้ผลตอบแทน (ROI/ROAS) สูงที่สุด
วางเป้าหมาย (Conversion Goal) ให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น
Google จะทำงานตามเป้าหมายที่คุณตั้ง เช่น
- ยอดขาย (Purchase)
- การลงทะเบียน (Lead)
- โทรศัพท์เข้า (Call)
- เข้าชมหน้าเว็บเฉพาะ (Pageview)
ยิ่งระบุชัด ระบบจะยิ่งแม่นและหาคนที่มีแนวโน้ม “ซื้อ” หรือ “สมัคร” ได้ดีขึ้น

ใส่ Creative ครบทุกประเภท
Performance Max ต้องการเนื้อหาครอบคลุมทั้ง Text, รูปภาพ, โลโก้ และวิดีโอ
- เขียน Headline และ Description หลายชุดเพื่อให้ระบบเลือก
- รูปควรมีอัตราส่วนแนวนอน, สี่เหลี่ยมจัตุรัส และแนวตั้ง
- ถ้ามีวิดีโอ แนะนำให้ใส่เอง ไม่งั้น Google จะสร้างอัตโนมัติ ซึ่งอาจไม่สื่อสารตรงจุด
ใช้ Audience Signals ให้ถูก
แม้ระบบจะเป็นอัตโนมัติ แต่คุณสามารถช่วย “ไกด์” กลุ่มเป้าหมายได้
- อัปโหลด Customer List (เช่น อีเมลลูกค้าเดิม)
- ใส่ความสนใจ (Interest) หรือ Intent ที่คุณรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของคุณมี
- ใช้ Remarketing Audience เพื่อให้แอดกลับไปหาคนที่เคยเข้าชม
ตั้งงบให้เพียงพอต่อการเรียนรู้
ระบบ Performance Max ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ (Learning phase) แนะนำให้ใช้งบประมาณต่อวันไม่น้อยกว่า 10–15 เท่าของ Conversion ที่คุณต้องการต่อวัน เช่น อยากได้ 5 Conversion/วัน งบควรอยู่ที่ 500–750 บาท/วันเป็นขั้นต่ำ

วัดผลด้วย Data ที่ถูกต้อง
- ติดตั้ง Conversion Tracking ให้ครบ (ผ่าน Google Tag Manager หรือ GA4)
- เชื่อม GA4 กับ Google Ads เพื่อดูพฤติกรรมหลังคลิก
- วิเคราะห์ว่า Conversion มาจากแชนแนลไหน (Search, YouTube หรือ Display)
ทดสอบหลายชุดสินทรัพย์ (Asset Group)
คุณสามารถสร้าง Asset Group ได้มากกว่า 1 ชุดภายในแคมเปญเดียว แต่ละกลุ่มควรมีข้อความและภาพที่แตกต่างกันเพื่อดูว่าแบบไหนทำงานดีที่สุด
อย่าลืมเช็ก Search Term และ Exclude คำที่ไม่เกี่ยวข้อง
แม้ระบบจะจัดการอัตโนมัติ แต่คุณยังสามารถดูรายงาน Search Term และปรับ Exclude Keyword ได้ เพื่อป้องกันการเสียเงินกับกลุ่มที่ไม่ตรงเป้าหมาย
สรุป Performance Max ไม่ใช่แค่ตั้งแล้วปล่อย
ถ้าคุณเข้าใจหลักการทำงานและวางแผนดีพอ Google จะทำงานแทนคุณได้จริง แต่ถ้าคุณใส่ข้อมูลไม่ครบ ปล่อยระบบทำงานแบบเดาสุ่ม แคมเปญนี้ก็อาจกลายเป็นหลุมดูดงบได้เช่นกัน
อย่าลืมว่า… Google Ads ไม่ได้อยากให้คุณจ่ายแพง แต่เขาช่วยคุณไม่ได้ ถ้าคุณไม่ส่งข้อมูลให้เพียงพอ
เขียน/เรียบเรียงโดย: บจก. มูฟออน มาร์เก็ตติ้ง จำกัด
LINE ID @moveonmarketing
Mobile : 064 989 9797
Email : [email protected]
หากต้องการให้เราดูแล Google Ads ดูรายละเอียดบริการทางนี้ครับ : https://www.moveonmarketing.com/ads/google